ทรัมป์ในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง: แนวทางพลังงานและภาษีที่น่าจับตา
ในวันแรกที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาเลือกที่จะยังไม่ดำเนินการเก็บภาษีนำเข้าอย่างที่เคยประกาศในช่วงหาเสียง โดยเขาให้ความสำคัญกับการใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อลดราคาพลังงานและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าภัยคุกคามเรื่องภาษีเหล่านี้ยังคงมีอยู่ในอนาคต
การทบทวนข้อตกลงการค้า
ในช่วงหาเสียง ทรัมป์เคยสัญญาว่าจะเก็บภาษี 10-20% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมด และสูงสุดถึง 60% สำหรับสินค้าจากจีน รวมถึงขู่ว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หากไม่สามารถควบคุมการลักลอบนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายและยาเสพติดได้ อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง
ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการทบทวนข้อตกลงการค้า เช่น ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา โดย Rachel Ziemba ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองกล่าวว่า การไม่มีการเก็บภาษีในวันแรกอาจสะท้อนว่าที่ปรึกษาของทรัมป์สามารถชักชวนให้เขาใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบมากขึ้นแทนที่จะรีบดำเนินการอย่างเร่งรีบ
แนวทางการค้าและพลังงานกับจีน
ในประเด็นความสัมพันธ์กับจีน ทีมงานของทรัมป์คาดว่าจะให้ความสำคัญกับข้อตกลงในปี 2020 ซึ่งจีนสัญญาว่าจะซื้อทรัพยากรจากสหรัฐฯ เพื่อช่วยลดการขาดดุลการค้า แต่จีนยังไม่สามารถปฏิบัติตามได้ Ziemba กล่าวว่าการเน้นที่การซื้อทรัพยากรในตอนนี้ช่วยให้สหรัฐฯ มีเวลามากขึ้นก่อนการใช้มาตรการภาษีที่เข้มงวด
"ขุดมันให้สุด": แนวทางพลังงานของทรัมป์
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในวันแรกคือการเพิ่มการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ พร้อมยืนยันว่า "อเมริกาจะกลับมาเป็นประเทศแห่งการผลิตอีกครั้ง" ด้วยการใช้ทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐฯ มีมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ เขายังให้คำมั่นว่าจะเติมคลังสำรองปิโตรเลียมแห่งชาติ (SPR) ซึ่งลดลงในยุคของโจ ไบเดนที่มีการขายน้ำมันดิบออกไปเพื่อรักษาราคาน้ำมันในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ จะยกเลิกสิ่งที่เขาเรียกว่า "ข้อบังคับรถยนต์ไฟฟ้า" โดยเขาเชื่อว่าการยกเลิกนโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ แม้ว่านโยบายของไบเดนจะไม่ได้บังคับให้ประชาชนต้องซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แต่เน้นการส่งเสริมการเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าแทน
ความสำคัญของพลังงานต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
เจ้าหน้าที่ในทีมทรัมป์ระบุว่า "พลังงานเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ การปลดล็อกพลังงานที่ต้นทุนต่ำและเชื่อถือได้ของสหรัฐฯ จะช่วยสร้างความเป็นผู้นำด้านพลังงานในระดับโลก"
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่าสหรัฐฯ อยู่ในการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์กับจีนและประเทศอื่น ๆ ซึ่งความต้องการพลังงานมหาศาลของอุตสาหกรรมนี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในระดับชาติ คาดว่าความต้องการพลังงานจากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นสามเท่าในสามปีข้างหน้า
อลาสกา: ทรัพยากรที่ยังรอการพัฒนา
ทรัมป์ยังคาดว่าจะลงนามในคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรในอลาสกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม พรรครีพับลิกันมองว่าอลาสกามีศักยภาพในการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการอนุรักษ์พื้นที่ธรรมชาติของรัฐนี้
สรุป
แนวทางในวันแรกของทรัมป์เน้นไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและพลังงานผ่านการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร แม้ว่าเขาจะยังไม่ดำเนินการเก็บภาษีอย่างเร่งรีบ แต่ภัยคุกคามด้านภาษีและการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองในอนาคต
Source: aljazeera
0 ความคิดเห็น